สาขาวิชาพระไตรปิฎกศึกษา
ภาควิชาพระพุทธศาสนา (บัณฑิตศึกษา หลักสูตรปริญญาเอก)
ชื่อปริญญา
พธ.ด. (พระไตรปิฎกศึกษา)
คณะพุทธศาสตร์
สาขาวิชาพระไตรปิฎกศึกษา
ปรัชญาหลักสูตร
รูปแบบของหลักสูตร
- รูปแบบ เป็นหลักสูตรระดับปริญญาเอก หลักสูตร ๓ – ๕ ปี
- ภาษาที่ใช้ การจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาไทย
- การรับเข้าศึกษา รับผู้เข้าศึกษาเป็นชาวไทยและชาวต่างประเทศที่สามารถใช้ภาษาไทยได้
- ความร่วมมือกับสถาบันอื่น เป็นหลักสูตรเฉพาะคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- การให้ปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว คือ พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระไตรปิฎกศึกษา
จุดเด่น สาขาวิชา
ผลการเรียนรู้
การพัฒนาคุณลักษณะพิเศษของนิสิต
เกณฑ์การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร
แบบ ๑.๑
๑. มีเวลาการศึกษาไม่น้อยกว่า ๖ ภาคการศึกษาปกติ หรือไม่เกินกว่า ๑๐ ภาคการศึกษาปกติ
๒. ศึกษารายวิชาต่าง ๆ ครบถ้วนและถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
๓. ได้ค่าระดับเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ จากระบบ ๔ ระดับ
๔. ได้ระดับไม่ต่ำกว่า B ในรายวิชาบังคับและวิชาเอกทุกวิชา และได้รับ S ในกรณีที่หลักสูตรกำหนดให้วัดผลเป็น S หรือ U
๕. สอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination) ในรายวิชาตามที่คณะกรรมบริหารหลักสูตรกำหนด
๖. นำเสนอดุษฎีนิพนธ์ (Public Hearing) ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและสาธารณชน
๗. สอบผ่านการประเมินผลดุษฎีนิพนธ์ และส่งดุษฎีนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
๘. ผลงานดุษฎีนิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของดุษฎีนิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์หรืออย่างน้อยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศคณะกรรมการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
๙. สอบผ่านภาษาอังกฤษ และเลือกสอบภาษาต่างประเทศอีก ๑ ภาษา คือ ภาษาบาลี, ภาษาสันสกฤต, ภาษาเยอรมัน, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาจีน, หรือภาษาฝรั่งเศส, นิสิตชาวต่างประเทศที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ สามารถเลือกภาษาไทย
๑๐. ต้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานครบตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
แบบ ๒.๑
๑. มีเวลาการศึกษาไม่น้อยกว่า ๖ ภาคการศึกษาปกติ หรือไม่เกินกว่า ๑๐ ภาคการศึกษาปกติ
๒. ศึกษารายวิชาต่าง ๆ ครบถ้วนและถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
๓. ได้หน่วยกิตสะสมไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
๔. ได้ค่าระดับเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ จากระบบ ๔ ระดับ
๕. ได้ระดับไม่ต่ำกว่า B ในรายวิชาบังคับและวิชาเอกทุกวิชา และได้รับ S ในกรณีที่หลักสูตรกำหนดให้วัดผลเป็น S หรือ U
๖. สอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination) ในรายวิชาตามที่คณะกรรมบริหารหลักสูตรกำหนด
๗. นำเสนอดุษฎีนิพนธ์ (Public Hearing) ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและสาธารณชน
๘. สอบผ่านการประเมินผลดุษฎีนิพนธ์ และส่งดุษฎีนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
๙. ผลงานดุษฎีนิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของดุษฎีนิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์หรืออย่างน้อยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศคณะกรรมการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
๑๐. สอบผ่านภาษาอังกฤษ และเลือกสอบภาษาต่างประเทศอีก ๑ ภาษา คือ ภาษาบาลี, ภาษาสันสกฤต, ภาษาเยอรมัน, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาจีน, หรือภาษาฝรั่งเศส, นิสิตชาวต่างประเทศที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ สามารถเลือกภาษาไทย
๑๑. ต้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานครบตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
จบแล้วสามารถทำอาชีพอะไร
เรียนสาขาวิชาพระไตรปิฎกศึกษาจบแล้ว อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา
- อาจารย์ในสถาบันการศึกษา
- เจ้าหน้าที่ของรัฐ
- นักพัฒนาด้านกิจกรรมคณะสงฆ์
- นักวิชาการอิสระ
- นักพัฒนาสังคม
- อาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง